Through the Darkness อ่านใจปีศาจร้าย ซีปรี่ย์แนวอาชญากรรม จิตวิทยา ที่เล่าราวของโปรไฟล์เลอร์คนแรกของประเทศเกาหลีที่มานะอ่านลึกลงไปด้านในจิตใจของเหล่าฆาตกรโรคจิตผู้อยู่จุดสุดยอดของความเหี้ยมโหดอำมหิต ซึ่งเรื่องราวนี้อ้างอิงมาจากนิยายอิงจากความจริง ‘악의 마음을 읽는 자들’ เขียนโดย ควอนอิลยง และก็ โกนามู ซึ่ง คุณควอนอิลยง เป็นบุคคลที่ดำรงชีพโปรไฟล์เลอร์เป็นคนแรกของประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งเคยเจอหน้ากับคดีการฆ่าตลอดระดับประเทศมามากมายก่ายกอง มองซีปรี่ย์ประเทศเกาหลี Through the Darkness อ่านใจภูติผี บรรยายไทย ar after a series of brutal attacks and murders occurred. A mysterious figure dubbed ‘Red Cap’ was stalking women on the streets then killing his prey, seemingly without provocation. His habit of striking at random made it impossible for the detectives to predict his next move. At the top of their minds is what could be triggering him.
Through the darkness เป็นซีรีส์ประเทศเกาหลีไต่สวนจากประเทศเกาหลีหนึ่งในสองเรื่องเดียวของสามเดือนแรกนี้ (อีกประเด็นเป็น tracer ที่ไม่มีซับไทยมองของMBC) เล่าราวการเริ่มยืนหน่่วยงานพินิจพิจารณาอาชญากรรมของประเทศเกาหลีซึ่งเบสมาจากหนังสือ Non-Fiction ที่เขียนโดยโปรไฟเลอร์คนแรกของประเทศเกาหลีใต้อย่างคุณควอนอิลยงที่ได้มาช่วยทำให้ข้อเสนอแนะกับวิธีการทำซีรีส์หัวข้อนี้ด้วย
จริงๆจากแบบอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นซีรีส์สอบปากคำทั่วๆไปแม้กระนั้นสิ่งที่ทำให้ประเด็นนี้พิเศษส่วนตัวเรา เป็นการที่เขาเล่าเป็น Slice of life ของโปรไฟเลอร์อย่างซงฮายองเรื่องมิได้พึงพอใจเพียงแค่การพิสูจน์ แม้กระนั้นยังเล่าให้มองเห็นถึงปัํญหา ปัญหาแล้วก็ผลพวงที่ฮายองได้รับตลอดการปฏิบัติงานมายาวนานหลายปี อันนี้เป็นแบบเฉือนน้ำตากันไปหลายหยดแล้วก็นอกเหนือจากนี้แล้วคดีที่ถูกกล่าวถึงมาก็เกิดเรื่องจริงที่เกิดในประเทศเกาหลีใต้ด้วยรวมทั้งด้วยแนวทางเล่าที่มิได้เน้นย้ำให้มองเห็นภภาพน่าสยดสยองหรือเลือดมากพอๆกับเรื่องอื่นเลยรู้สึกว่าน่าจะเป็นมิตรกับผู้ชมหลายๆคนที่ไม่ต้องการที่จะอยากเห็นภาพที่น่าสยดสยองหรือเลือดมากนะคะ
บางครั้งก็อาจจะเป็นเป็นสิ่งที่ Through the darkness (ซึ่งตั้งแต่นี้ต่อไปจะขอเรียกว่าอ่านใจภูติผีปีศาจนะคะพวกเราเกียจคร้านสลับแป้นอักษร lol) พากเพียรเล่าให้พวกเรามองเห็น เนื่องจากอ่านใจอสุรกายเป็นซีรีส์ที่เล่าราวการหัดยืนของหน่วยพินิจพิจารณาผู้กระทำผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้ซึ่งในทีแรกๆของซีรีส์ดูเหมือนเขาจะย้ำไปที่ตัวงานหน้าที่ด้านสังคมของหน่วยงานออกจะ เยอะแยะ เป็นหากคนไหนเคยมอง mindhunter ที่เน้นย้ำบอกเรื่องโปรไฟเลอร์มาก่อนแล้วถูกใจการที่เขากล่าวถึงความซัฟเฟอร์ในตัวโปรไฟเลอร์เยอะแยะตั้งแต่ตอนแรกไรงี้บางทีก็อาจจะย่นคิ้วกับการทำงานหนักในหัวข้อนี้ lol แม้กระนั้นในในที่สุดแล้วเขาก็เล่าความซัฟเฟอร์ผ่านนักแสดงซงฮายองได้อย่างยอดเยี่ยมมากมายเลยคะ (รีบขายไว้ก่อนสักครู่ผู้ที่ถูกใจ mindhunter จะปิดกันตั้งแต่อ่านย่อหน้านี้จบ lol)
คงจะเนื่องจากเบสมาจากหนังสือ non-fiction ที่เขียนโดยโปรไฟเลอร์คนแรกของประเทศเกาหลีอย่างคุณควอนอิลยงจริงๆคดีที่ถูกเอ๋ยถึงในเรื่องเลยเป็นคดีความจริงที่เกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์ประเทศเกาหลีแม้กระนั้นในรีวิวนี้พวกเราจะไม่ลงดีเทลในแต่ละคดีจ้ะเพราะเหตุว่าพวกเราต้องการจะเอ๋ยถึงอ่านใจปีศาจร้ายในสถานะของซีรีส์ที่เล่าราวของคนเลี้ยงชีพหนึ่งแล้วพอดิบพอดีว่าเขาเป็นโปรไฟเลอร์คนแรกของประเทศมากยิ่งกว่าการเป็นซีรีส์สอบสวนเพียงอย่างเดียว
เรื่องจะพาพวกเราไปรู้จักกับซงฮายองสายลับที่มีชื่อหัวข้อการดำเนินงานขวานผ่าซาก และไม่ได้เกรงอกเกรงใจผู้ใดกันหน้าไหนลักษณะท่าทางของฮายองดูเหมือนเป็นเพียงแค่ตำรวจสปายที่ไม่สนใจโลก แม้กระนั้นอันที่จริงแล้วเป็นการที่เขารู้เรื่องความรู้สึกของผู้อื่นมากมายเสียกระทั่งไม่อาจจะอธิบายออกมาเป็นคำกล่าวได้ซึ่งโน่นทำให้ซงฮายองเป็นตัวละครที่พวกเรารักมากมาย พวกเราถูกใจมากมายที่ผู้แสดงหลักในซีรีส์สืบสาวเป็นตัวละครที่เลิกกับงานมิได้เนื่องจากว่ารับทราบกับความรู้สึกของผู้อื่นมากมายไปและก็คาแรคเตอร์ของฮายองที่เป็นแบบงี้ บางครั้งอาจจะมีผลทำให้อ่านใจภูติผีเป็นซีรีส์อีกประเด็นที่พาพวกเราไปตรวจความรู้สึกเหยื่อครอบครัวเหยื่อเยอะแยะ
อย่างที่พูดว่าพวกเรามองดูประเด็นนี้ในฐานะของการเป็น Slice of Life มากยิ่งกว่าซีรีส์สอบสวนมาตั้งแต่ต้น (หากว่าคนอื่นๆบางทีอาจจะดูมันเป็นซีรีส์สืบสาวเรื่องนึง ก็ช่างเถิดจ้ะ) พวกเราถูกใจมากมายที่เรื่องเบาๆเล่าวิวัฒนาการของนักแสดงซงฮายองที่เปลี่ยนไปจากการทำงานอย่างมากจากจุดเริ่มที่มองไม่มีอะไร ก่อนที่จะเบาๆแปรไปเมื่อเขาไม่สามารถที่จะละความหมกมุ่นที่มีต่อคดีเนื่องจากว่านึกถึงความรู้สึกเหยื่อจนกระทั่งมิได้คิดถึงตนเองได้แปลงเป็นว่าการที่เขารู้สึกเยอะเกินไปมันไปรังควานชีวิตส่วนตัวเขา และก็มันไปไกลขนาดที่เขายืนถือมีดกึ่งกลางจุดเกิดเหตุ
บอกตามจริงว่าตอนแรกพวกเรามีความรู้สึกว่าเขาคงเล่าผลพวงไม่มากแบบเน้นย้ำการทำงานมากยิ่งกว่าไรงี้ เพราะว่าเป็นซีรีส์ประเทศเกาหลีอะนะ แม้กระนั้นตอนกลางเรื่องเขาฮุคไม่หยุดเลยมองผิวเผินเสมือนเขาจะมิได้เล่าความทุกข์ทรมานทนที่ฮายองจะต้องพบเจอเท่าไรนัก แต่ว่าเพียงพอมาไล่มองตอนที่เขาเล่าก็ใส่มารัวๆจนถึงทำพวกเราน้ำตาหล่นเปาะติดการที่ฮายองรู้สึกทรมาทรกรรมจนกระทั่งทำให้เขาถามคำถามกับหัวหน้าว่าเพราะเหตุใดมันควรเป็นเขาหรือการที่คำกล่าวคนร้ายที่สัมภาษณ์มาตลอดยาวนานหลายปีมันไป disturb การใช้ชีวิตเขากระทั่งเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เขาต้องการเลิกดำเนินงานนี้
ส่วนตัวสำหรับเรามันน่าอารมณ์เสียมากมายที่ฮายองถูกมุ่งมาดให้กลับไปดำเนินงานทั้งๆที่ต้องการออกดวงใจเกือบจะขาดมันกระทบกับเขามากมายๆซีนที่ผู้ที่ดำเนินการมากล่าวเรื่องรอคอยกลับไปปฏิบัติงานทำพวกเราซัฟเฟอร์จนกระทั่งต้องการคลื่นไส้แต่ว่าในที่สุดเหตุผลของการกลับไปก็คือเหยื่ออยู่ดี ซึ่งก็เกิดเรื่องน่าอารมณ์เสียจริงๆแต่ว่าก็รู้เรื่องได้ แต่ว่ามันก็เนื่องจากว่าระบบในตอนเริ่มต้นมันไม่มีผู้ใดมาแทนเขาได้ดูแล้วแบบอึดอัดมากมายที่เขาจะต้องยอมกัดฟันผ่านผ่านความรู้สึกที่ตรงนั้นมาเนื่องจากว่าเหยื่อและก็หน้าที่ที่มีต่อสังคม
แต่ว่าก็ถูกใจที่ปัญหาของฮายองเพียงปริศนาเดียวมันง่อนแง่นตัวกุกยองซูหัวหน้าที่เริ่มหน่วยพินิจพิจารณาความประพฤติปฏิบัตินี้ที่ดูอย่างกับว่าเขาก็จะรู้สึกมาครู่หนึ่งแล้วว่าเขากำลังรังควานฮายองอยู่ แม้กระนั้นเก็บมันไว้ภายในใจมาตลอดจนมาพบเพียงแต่ปัญหาเดียวที่เขย่าความรู้สึกทั้งผองรวมทั้งเขาในฐานะคนที่สอดส่องมาตลอดก็ได้รับทราบความเคลื่อนไหวนี้
การที่เขาสวมหมวกหลายใบให้ผู้แสดงกุกยอนซูเว้นเสียแต่ตำแหน่งหัวหน้าทีม และก็ผู้ที่บากบั่นส่งเสริมกลุ่มนี้มาตลอด แม้กระนั้นในอีกทางหนึ่งการทำงานมานานขนาดนี้ทำให้เขากับซงฮายองมีความเกี่ยวพันที่เขาเป็นมากกว่าเพียงแค่คนร่วมงานกัน ในฐานะเพื่อนฝูงการที่มีความเห็นว่าตนเองยอดเยี่ยมในที่มาของการที่พาซงฮายองมาทรมาทรกรรมขนาดนี้มันก็ทำให้เขาถามกับตนเอง เลยถูกใจที่เขาสะท้อนที่ตรงนี้ว่าในความมุ่งมาดปรารถนาที่ดีต่อสังคม มันบางทีก็อาจจะจำต้องแลกเปลี่ยนมากมายกับการกัดกร่อนตลอดตัวเองและก็คนที่อยู่รอบข้าง
อาจจะด้วยเหตุว่าเป็นหน่วยงานที่ตั้งภายใต้ที่ทำการตำรวจด้วยพวกเราเลยจะได้มองเห็นพลวัตของตำรวจประเทศเกาหลีในแต่ละสมัยผ่านประเด็นนี้อีกทั้งในทางของแบบหน่วยงาน แล้วก็เพศผู้คนภายในสถานี รวมทั้งส่วนตัวมีความรู้สึกว่าเรื่องกล่าวถึงหน่วยงานตำรวจในทางที่ออกจะดีในหลายแง่ๆเป็นแน่ๆว่าก็สะท้อนให้มองเห็นถึงความเน่าเหม็นหนอนในหน่วยงานอย่างการมีตำรวจอุบาทว์ที่รอขายข้อมูลให้ผู้รายงานข่าวตลอด การที่ตำรวจไม่ต้องการที่จะอยากจะเห็นด้วยข้อผิดพลาดของตนเองไรงี้
แม้กระนั้นก็ยังเล่าให้มองเห็นความเพียรพยายามในการพัฒนาระบบการไต่ถามของคนกรุ๊ปนึงแล้วก็อาจจะเพราะว่ามันย้ำที่กลุ่มคนเหล่านี้ ภาพตำรวจเลยมองออกจะดี ออกมาในหลักของการทำงานหนัก(แอบคิดว่ามันจะชมเชยการทำงานหนักอยู่ออกจะมากมายเลย) แม้กระนั้นก็เป็นสิ่งที่ถ้าจะพูดก็พูดได้ยากอีกเนื่องจากมันเป็นงานที่มีหน้าที่ต่อสังคมคดีการสังหารที่เสนอมากล่าวในเรื่องมันก็กระทบกับคนวงกว้างจริงๆรวมทั้งเป็นช่วงๆเริ่มเริ่มยืน อย่างไรก็คือปัญหาที่เลี่ยงมิได้ nung4free
But I also liked that Hayoung's only one question shook the head of this analytics unit, Gook Kyung Soo, who seemed to have felt for a while that he was hurting Hayoung. But he kept it in his mind until he came across a single question that shook all of his feelings, and he, as the one who had been watching all along, recognized this change.
The fact that he wears many hats for the character of Gook Yeon Soo in addition to the team leader position. and people who have always tried to push this team But on the other hand, working for so long has led him and Song Ha Young to have a relationship in which he is more than just a co-worker. As a friend, seeing himself as one of the reasons for bringing Song Hayoung to such torture made him question himself. I like that he reflects here that in the good wishes for society It may cost a lot to corrode both yourself and those around you.
Probably because it is an agency located under the police force, we can see the dynamics of the Korean police in each era through this matter in terms of organizational style. and the people in the station And personally, I feel that the story talks about the police organization in a pretty good way in many respects. It is, of course, reflecting the rottenness of the organization, such as the presence of a vicious policeman who constantly sells information to journalists. The fact that the police did not want to admit their own faults?ฃ
But it also tells of an attempt to develop an investigative system of a group of people and probably because it focuses on this group. So the police pictures look pretty good. It came out in the form of hard work (I felt that it would glorify the hard work quite a lot), but it was difficult to say because it was a work with a mission to the homicide society that was mentioned in the story. It really affects a wide range of people. and is the beginning of nascent Anyway, it's an inevitable problem nung4free.
留言